ระเบียบการขอรับบริการวิเคราะห์

  1. ผู้ที่จะขอรับบริการวิเคราะห์ กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของศูนย์เครื่องมือรวมฯ ที่อาคารวิทยาศาสตร์ 4/2  ห้อง 700 หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2997-2222 ต่อ 5170 เพื่อสอบถามรายละเอียด และ ลงทะเบียนผู้ขอรับบริการวิเคราะห์ โดยกรอกแบบฟอร์มการขอรับบริการวิเคราะห์ พร้อมทั้งแนบเอกสารประกอบ ดังนี้ 
    1. กรณีที่เป็นงานวิจัย/วิทยานิพนธ์/โครงการหรือ หน่วยงาน ภายในมหาวิทยาลัยรังสิต จะต้องมีลายมือชื่อของหัวหน้าภาควิชา/หัวหน้าโครงการ/หัวหน้าหน่วยงาน/คณบดี ลงนามในแบบฟอร์มการขอรับบริการวิเคราะห์ และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาบัตรประจำตัวนิสิต พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ฉบับ
    2. กรณีที่เป็นงานวิจัยของสถาบันการศึกษา/มหาวิทยาลัยเอกชนอื่นๆ/หน่วยงานราชการ ต้องมีหนังสือรับรองงานวิจัยจากหัวหน้าภาควิชา/คณบดี/หัวหน้าหน่วยงาน และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประจำตัวนิสิต พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ฉบับ
    3. บริษัทเอกชน/รัฐวิสาหกิจ/อื่นๆ ต้องมีหนังสือนำส่งตัวอย่าง ซึ่งต้องระบุที่อยู่ของบริษัท หรือองค์กรโดยชัดเจนและลงนาม โดยผู้มีอำนาจอนุมัติ และรับผิดชอบค่าบริการได้ และแนบ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ฉบับ
  2. กรอกแบบฟอร์มคำขอรับบริการในกรณีที่ ผู้ขอรับบริการวิเคราะห์ได้ทำการลงทะเบียนผู้ขอรับบริการวิเคราะห์ ในแบบฟอร์ม การขอรับบริการและได้รหัสประจำงานวิจัยเรียบร้อยแล้ว ในการส่งตัวอย่างครั้งต่อไปซึ่งอยู่ในงานวิจัยเดียวกัน กับที่ได้แจ้งไว้แล้ว ให้กรอกเฉพาะแบบฟอร์มส่งตัวอย่างวิเคราะห์เท่านั้น
  3. ผู้ขอรับบริการวิเคราะห์ต้องให้รายละเอียดที่แท้จริง เกี่ยวกับตัวอย่างที่จะทำการวิเคราะห์ (โดยกรอกข้อมูลในใบส่งตัวอย่าง ข้อ 5) อาทิเช่น ชนิด/ประเภทของสารตัวอย่าง, ขั้นตอนการเตรียม, สิ่งปลอมปน, การเก็บรักษา ตลอดจน ข้อควรระวังในการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ในขณะวิเคราะห์สารนั้นๆทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์
  4. ศูนย์เครื่องมือรวม คณะวิทยาศาสตร์ ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะไม่ให้บริการวิเคราะห์ตัวอย่างที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย หรือตัวอย่างที่ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์เครื่องมือรวม ฯ มีความเห็นว่า การวิเคราะห์สารตัวอย่างนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายและความเสียหายกับเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
  5. ศูนย์เครื่องมือรวม คณะวิทยาศาสตร์ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการวิเคราะห์ ตามเกณฑ์การจัดเก็บค่าบริการวิเคราะห์ที่ทางศูนย์ฯกำหนดขึ้น (ตามรายละเอียดด้านหลังใบส่งตัวอย่าง)
  6. เมื่อผู้ขอรับบริการวิเคราะห์ได้สรุปผลงานวิจัย หรือลงตีพิมพ์ในวารสารเรียบร้อยแล้ว ทางศูนย์เครื่องมือรวม คณะวิทยาศาสตร์ ขอความร่วมมือในการส่งบทความ หรือรายงานการวิจัยฉบับย่อ ให้กับทางศูนย์เครื่องมือรวม คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งรายงานการวิจัยจะเป็นประโยชน์ ในการทำฐานข้อมูล และเป็นเอกสารอ้างอิงในการให้บริการของศูนย์เครื่องมือรวม คณะวิทยาศาสตร์ ต่อไป

เครื่องมือที่เปิดให้บริการวิเคราะห์

1.Gas Chromatography (GC-FID-ECD/ GC-MS)

เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ใช้แยกสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ หรืออนุพันธ์ที่ระเหยได้ของสารที่ ระเหยยาก สารอินทรีย์ที่ระเหยได้อาทิเช่น แอลกอฮอล์ Aromatic, Esters, Ketone, Aldehyde, ยา, น้ำมันหอมระเหย สารที่ทำให้อยู่ในสถานะของก๊าซ จะเคลื่อนที่ผ่านคอลัมน์ (DB1, DB5, DBwax column) โดยอาศัย carrier gas เป็นตัวพาสาร สารที่เกิดการแยกแล้วจะถูกตรวจวัดด้วยตัวตรวจวัด โดย Flame Ionization Detector (FID) ซึ่งเหมาะสำหรับสารอินทรีย์ที่สามารถเกิด ionization ได้ ด้วยเปลวไฟ หรือ Electron capture Detector (ECD) เหมาะสำหรับสารที่ประกอบที่มีฮาโลเจนอะตอม เช่น ยาฆ่าแมลง และยาปราบวัชพืช และ mass spectrometry  (GC-MS)  สำหรับพิสูจน์เอกสักษณ์ของสาร
 

2.High Performance Liquid Chromatography (HPLC/ LC-MS/MS)


เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้แยกสารที่เป็นของเหลว โดยผ่านคอลัมน์ การแยกจะขึ้นกับการเลือกชนิดของคอลัมน์และส่วนผสมที่เหมาะสมของตัวพาสาร สารที่ถูกแยกหลังจากออกจากคอลัมน์จะถูกตรวจวัด โดยการดูดกลืนแสง UV-Visible หรือ Photo diode array ดีเทคเตอร์ชนิด   fluorescence ใช้สำหรับวิเคราะห์สารอินทรีย์ที่ละลายได้ในตัวทำละลาย อาทิเช่น กรดอินทรีย์ กรดอะมิโน กรดไขมัน วิตามิน วิเคราะห์ตัวยา สารกันเสีย ฯลฯ และ ดีเทคเตอร์ชนิด ELSD สำหรับวิเคราะห์ ยา สมุนไพร น้ำตาล ไขมัน  natural product ต่างๆ  และ  mass spectrometry  (LC-MS/MS)  สำหรับพิสูจน์เอกสักษณ์ของสาร

3. Ion Chromatography (IC)

เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้แยกสารที่มีประจุที่ละลายได้ ใช้แยกสารที่อยู่ในสถานะของเหลวโดยผ่านคอลัมน์ การแยกจะขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดของคอลัมน์ (cation และ anion column) และอัตราส่วนที่เหมาะสมของตัวพาสาร (eluent) สารที่ถูกแยกหลังจากออกจากคอลัมน์จะถูกตรวจวัด ด้วยตัวตรวจวัดคือ Conductivity Detector  สามารถตรวจสอบสารได้ดังนี้ เช่น คลอไรด์  ฟลูออไรด์  ซัลเฟต ไนเตรท ไอโอไดด์  กรดอินทรีย์  โพแทสเซียม  เอมีน โซเดียม  แอมโมเนี่ยม เป็นต้น

 

4.UV-VIS Spectrophotometer

เป็นเครื่่องมือวิเคราะห์การดูดกลืนแสงที่อยู่ ในช่วง Ultraviolet และ Visible (ความยาวคลื่น ประมาณ 190-800 nm) ของสารเคมี สามารถใช้วิเคราะห์เชิงคุณภาพ (ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ) และเชิงปริมาณได้อย่างกว้างขวาง กับทั้งสารอินทรีย์และอนินทรีย์ทั้งที่มีสีและไม่มีสี ที่สามารถละลายได้ในน้ำ หรือตัวทำละลายอินทรีย์

 

5.Atomic Absorption Spectrophotometer (AAS)

เป็นเครื่องมือวิเคราะห์โลหะหนัก ใช้วิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักชนิดต่างๆ เช่น ตะกั่ว สังกะสี แมงกานีส ทองแดง แคลเซียม ปรอท อาร์เซนิค แคดเมียมโพแทสเซียม โซเดียม นิเกิล เหล็ก ในสารละลายชีวภาพ เช่น เลือด ซีรั่ม ปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังใช้วิเคราะห์โลหะต่างๆในอาหาร ดิน น้ำ และวัสดุต่างๆ เครื่อง AAS มีทั้งแบบที่ใช้และไม่ใช้เปลวไฟในการทำให้สารตัวอย่างแตกตัวเป็นอะตอมอิสระและเครื่อง VGA (Vapor generator accessory) ที่ใช้สำหรับธาตุบางอย่าง ที่เมื่อแตกตัวแล้วจะจับรวมตัวกับ ออกซิเจน เช่น ปรอท สารหนู ซิลิเนียม จึงต้องทำให้ระเหยเป็นไอ อยู่ในรูปสารประกอบไฮไดรด์ก่อน แล้วใช้เปลวไฟทำให้แตกตัว

 

6.Fourier Transform Infrared Spectrometer (FT-IR)

ใช้ในการทำนาย functional group ที่สำคัญของสาร ซึ่งจะมี absorption spectra ที่เป็น ลักษณะเฉพาะของสารนั้นๆสารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์ ที่อยู่ในสถานะของแข็ง และของเหลว

 

7.Gel Documentation system 

เป็นเครื่องถ่ายภาพ เจล และวิเคราะห์ผลภาพเจล 

 

 

8.Microplate reader 

เป็นเครื่องมืออ่านปฏิกิริยาบนไมโครเพลท สามารถอ่านค่าการดูดกลืนแสงในช่วงคลื่นตั้งแต่ 200 ถึง 999 นาโนเมตร โดยวิธี diffraction grating  monochromator ความละเอียด 1 nm และมี software ประกอบทำให้การประมวลผลสามารถวิเคราะห์ในเชิงปริมาณและคุณภาพได้ เครื่องเหมาะที่จะใช้ในงานด้านmolecular biology, protein quantitation, ELISA และ cytotoxicityเป็นต้น

 

9.Microwave Reaction 

เป็นเครื่องมือเตรียมสารตัวอย่าง โดยการ ย่อยสารตัวอย่างด้วยกรดเข้มข้น หรือสกัดสารตัวอย่างด้วยสารละลายอินทรีย์ โดยใช้อุณหภูมิสูงด้วยการทำงานของ magnetron ให้เกิดคลื่นไมโครเวฟ ที่ความถี่ 2450 MHz  1800 W  มีระบบ one Touch Method สำหรับการย่อยตัวอย่างที่มีค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับตัวอย่างแต่ละชนิดอยู่ในเครื่อง หรือ สร้างสำหรับการใช้งานเองด้วย menu classic 

 

10.PCR   เครื่องเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมในปฏิกิริยาโพลีเมอเรส

Polymerase Chain Reaction หรือ (PCR) เป็นเทคนิคสำหรับเพิ่มปริมาณดีเอ็นเอโดยอาศัยหลักการ DNA Replication ซึ่งเป็นการสังเคราะห์สายดี เอ็น เอ สายใหม่ จาก ดีเอ็นเอต้นแบบในหลอดทดลองภายในระยะเวลาอันสั้นและได้ดีเอ็นเอสายใหม่เกิดขึ้นเป็นล้านเท่า ใช้หลักการพื้นฐานในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ สายใหม่จากสายดีเอ็นเอ ที่เป็นต้นแบบหนึ่งสายด้วยเอนไซม์ DNA poloymerase ซึ่งใช้กันอยู่ทั่วไปในการติดฉลากดีเอ็นเอ และการศึกษาวิเคราะห์ลำดับเบส

 

Copyright@2015 Admin เข้าสู่ระบบ Instrument Center Rangsit University. All Rights Reserved.